มุกดาหาร เจรจาแทบตายกว่าจะได้เปิดน่านน้ำการค้าชายแดน
มุกดาหาร/ เมื่อ 23 มิ.ย.2566 เจ้าหน้าที่ทหารพราน 2110 มุกดาหาร ได้ทำการจับกุมสินค้าอุปโภค บริโภค เครื่องสำอางค์ บรรจุในกล่องกระดาษ จำนวน 28 กล่อง ยางรถยนต์ใช้แล้ว จำนวน 29 เส้น และเรือเหล็กพร้อมเครื่องยนต์จำนวน 1 ลำ ที่ใช้บรรทุกสินค้ามูลค่ากว่า 300,000 บาท ที่บริเวณท่าน้ำ บ้านบางทรายใหญ่ ต.บางทรายใหญ่ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร
จากข่าวสารที่ปรากฏถามว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ตอบว่าผิดกฎหมาย เรื่องการนำออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดระยะเวลาประมาณ 3 ปีได้ ที่การค้าชายแดนไม่ได้เปิดให้มีการค้าขายตามแนวชายแดน เพราะปัญหาการแพร่ระบาดของ โควิด- 19 จึงทำให้สินค้าทุกประเภทต้องผ่านด่านสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 มุกดาหาร – สะหวันนะเขต ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร แต่ท่านรู้หรือไม่ว่าผู้ค้าของข้ามแดนของไทยต้องแบกภาระเท่าไรที่ต้องนำเงินไปให้กับบริษัทโลจิสติกส์ดำเนินเรื่อง/ภาษี เที่ยวละ 60,000 – 70,000 บาท /ต่อ 1 เที่ยว สรุปไม่เหลืออะไรเลย จึงทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ของมุกดาหารมีความพยายามเปิดเจรจาให้มีการค้าชายแดนระหว่างจังหวัดมุกดาหารกับแขวงสะหวันนะเขต ให้มีการค้าผ่านแดนทางเรือ เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการค้าชายแดนอยู่ได้ ประกอบกับประเทศเพื่อนบ้านเขาจะได้ซื้อสินค้าราคาถูกลง เพราะพวกเขาอยู่ในสภาวะค่าเงินกีบอ่อนตัวเป็นอย่างมาก หรือเจ้าหน้าที่ทหารไทยไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้บ้างเลยหรือ
ทั้งที่ปัญหาการลักลอบนำเข้ายาเสพติด(ยาบ้า/ไอซ์) ทะลักเข้ามาทางภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดมุกดาหาร เข้าครั้งละมาก ๆ ตามข่าวที่ปรากฏ แต่เจ้าหน้าที่ ที่รับผิดชอบและหน่วยที่เกี่ยวข้องไม่เห็นจับกันบ้างเลย เก่งแต่จับชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ เรื่องที่ควรทำกับไม่ทำ หรือไม่มีปัญญาจะทำเรื่องพวกนี้ เลยหันมาจับชาวบ้านทำผลงาน ลองไปคิดดูเยอะ ๆ เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ทำอะไร อะไรควรทำและไม่ควรทำ ควรพิจารณาไตร่ตรองให้ดี ใช่ว่าอะไรผิดนิดหน่อยกูจะจับท่าเดียว แล้วจะเป็นที่เคารพและรักของชาวบ้านได้อย่างไร เมื่อไม่ได้ใจชาวบ้านก็อย่าหทวังว่าจะได้ข้อมูลจากชาวบ้านหรือมวลชน ฝากไว้ให้คิดครับ
ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร
081-0501177
Leave a Reply