เก๋งขับรถตัดหน้ารถพยาบาล ขณะเร่งส่งผู้ป่วย แยกตากสิน

เก๋งขับรถตัดหน้ารถพยาบาล ขณะเร่งส่งผู้ป่วย แยกตากสิน (มีคลิปกล้องหน้ารถ)

วันที่ 27 สิงหาคม 2566
เวลา 19.50 น.

อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร้องสื่อให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้หน่อยเรื่องของการขับขี่รถยนต์ตัดหน้ารถฉุกเฉิน มันอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของรถยนต์คู่กรณีเอง และก็รถอาสาสมัครกู้ภัยด้วย เพราะภายในรถฉุกเฉินของอาสาสมัครนั้นเขามีผู้ป่วยฉุกเฉินที่จะต้องรีบส่งตัวไปรักษาด่วนที่โรงพยาบาลจริงๆ แล้วมาตัดหน้ารถแบบกระชั้นชิดอย่างนี้ ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำอย่างไร อันนี้ก็ต้องเห็นใจกันด้วยถ้าไม่ฉุกเฉินจริงๆก็คงจะไม่รีบ และก็จะไม่เปิดสัญญานไฟเปิดสัญญานเสียงดังลั่นกันแบบนี้หรอก แต่นี่เปิดทั้งสัญญานไฟและเปิดสัญญานเสียงดังลั่นถนนกันแบบนี้ก็ยังจะมีรถยนต์ขับตัดหน้าอีก และก็ส่งผลให้ผู้ป่วยที่นอนอยู่ภายในรถดังกล่าวถึงกับไหลไปกองอยู่หน้ารถด้วยแรงของเบรคที่ต้องเหยียบเบรคแบบกระทันหัน แล้วทางญาติกับอาสาที่นั่งมาด้วยข้างๆกับคนป่วยก็หน้าขมำไปกับพื้นรถได้รับบาดเล็กน้อยด้วย แล้วรถยนต์คันดังกล่าวก็ขับไปแบบไม่มีการขอโทษเลย

โดยในภาพเหตุการณ์ รถเก๋ง สีดำ ตัดหน้ารถพยาบาลกู้ภัยขณะรับผู้ป่วยเป็นหญิง อายุ 80 ปี โดยรับจากบ้านพักย่านประชาอุทิศ มุ่งหน้า โรงพยาบาลตากสิน โดยใช้เส้นทางถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน มุ่งหน้าวงเวียนใหญ่ โดยจากคลิป เป็นช่วงขณะรถพยาบาลกู้ภัย กำลังจะผ่านพ้นแยกตากสิน โดยได้รับสัญญาณไฟเขียว ในจังหวะนั่น มีรถยนต์เก๋ง สีดำ ซึ่งมาจากถนนราชพฤกษ์ เลี่ยวซ้ายมุ่งหน้าเข้าวงเวียนใหญ่เช่นกัน ได้เลี้ยวรถตัดหน้ารถกพยาบาลกู้ภัย (ชมคลิปวีดีโอได้ที่ link นี้) https://youtu.be/bqpkxZWQbSg?si=b_521XlV0Amher_1

จากการสอบถามนาย อัมรินทร์ กงสำโรง อายุ 23 ปี เป็นผู้ขับรถฉุกเฉินในตอนนั้น บอกเล่าว่า ตนรีบเร่งขับรถเพื่อนำผู้ป่วยซึ่งมีอาการหายใจติดขัด แน่นหน้าอก หายใจไม่ทั่วท้อง ต้องให้อ๊อกซิเจน มาตลอดทาง ไปให้ถึงโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ตนก็ใช้สัณญาณไฟและเสียงเพื่อขอทาง มาถึงที่เกิดเหตุตรงแยกตากสิน ก็มีรถยนต์คันนึงเลี้ยวซ้ายออกมาจากทางโพธิ์นิมิตร เลี้ยวตัดมาทางเลนที่สามเลย ซึ่งตนก็มาทางเลนที่สามพอดี ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมากระทันหันมันก็จะเกิดการสูญเสียกันทั้ง 2 ฝ่าย พอถึงโรงพยาบาล หมอบอกว่า ดีว่ามาทันเวลานะ ถ้าช้าอีกนิดอาจจะแย่กว่านี้ เลยบอกกับหมอว่า เกือบจะเกิดอุบัติเหตุแล้ว ดีว่าไม่เป็นไรมาก

ส่วนทางอาสาที่นั่งมากับญาติและดูแลคนป่วยทางด้านหลังบอกว่า ตอนเกิดเหตุที่เบรคตนและญาติคนป่วยได้หน้าคมำไปคนละ 1 ที ส่วนคนป่วยบอร์ดไปเขยือนไหลไปข้างหน้า จึงต้องช่วยกันจัดท่าและดึงบอร์ดกลับมาที่เดิม และมีสายอ๊อกซิเจนใส่มาตลอดทางด้วย ซึ่งมันอันตรายกับคนป่วยมาก

เบื้องต้นทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสอบถามข้อมูลจากอาสาสมัครกู้ภัยคนดังกล่าวแล้วและได้รับข้อมูลมากจากอาสาสมัครจึงอยากทราบเหตุผลของผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวด้วยเพื่อเป็นการฟังความทั้งสองฝ่ายและทั้งนี้ทางอาสาสมัครกู้ภัยก็ไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใดแค่อยากจะให้ออกมาขอโทษกับทางญาติผู้ป่วยดังกล่าวที่เป็นต้นเหตุทำให้ต้องมีการเจ็บตัวเพราะการเบรคกระทันหันของรถกู้ภัย และอยากจะวิงวอนขอร้องผู้ใช้รถใช้ถนนด้วยว่าถ้าพบเห็นรถอาสาสมัครกู้ภัย หรือรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลถ้ามีการต้องเปิดเสียงสัญญานฉุกเฉิน และเปิดไฟสัญญานฉุกเฉิน ก็ขอให้หลบหรือให้ทางรถกู้ภัย หรือรถฉุกเฉินไปก่อนได้หรือไม่ เพราะบนรถเหล่านั้นอาจจะมีผู้ป่วยที่ต้องนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน และถ้าหากต้องเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาก็อาจจะทำให้ผู้ป่วยเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หรือบางทีผู้ป่วยที่อยู่บนรถพยาบาลดังกล่าวอาจจะเป็นญาติพี่น้องหรือคนที่คุณรักก็อาจจะเป็นไปได้ คงไม่มีใครอยากให้ญาติของตนเองต้องมาจบชีวิตเพราะความมักง่ายและเห็นแก่ตัวของคนที่ไม่รู้จักคิดหรอกและถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆใครจะเป็นผู้รับผิดชอบกับชีวิตที่ต้องสูญเสียไป

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link