ฆ่าได้หยามไม่ได้ ไรเดอร์แทงไรเดอร์ดับ เหตุเย้ยแย่งแฟน

ฆ่าได้หยามไม่ได้ ไรเดอร์แทงไรเดอร์ดับ เหตุเย้ยแย่งแฟน
เวลา 12.00 น.วันที่ 5 มี.ค.67 ร.ต.อ.พิชัย ศรีอมร รอง สว.(สอบสวน)สน.พระโขนง รับแจ้งเหตุชายถูกอาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณปากซอยอ่อนนุช 32 แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ประดับไทย ผกก.สน.พระโขนง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯและอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บนฟุตบาทหน้าปากซอยอ่อนนุช 32 พบศพนายทศพร ศิริแต่งงาม อายุ 29 ปี นอนหงายจมกองเลือดในชุดเสื้อยืดแขนยาวและกางเกงยีนส์สีดำ มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดเข้าที่ใต้ราวนมซ้ายตัดขั้วหัวใจ ใกล้กันพบปืนแบลงค์กันขนาด9มม.แต่ไม่มีแม็กกาซีนของผู้ตายตกอยู่ ห่างไปประมาณ5 เมตรพบรถจยย.ผู้ตายจอดชิดขอบทางด้านซ้าย ห่างไปอีก5 เมตร พบแม็กกาซีนของปืนแบลค์กัน บรรจุลูกขนาด9มม.อยู่เต็มแม็ก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือนายปิยะ หรือเบส ยะหัตตะ อายุ 38 ปี ซึ่งได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ หลังก่อเหตุพร้อมด้วยของกลางมีดปอกผลไม้ยาว10นิ้ว 1 เล่ม และเครื่องแต่งกายขณะก่อเหตุ นำตัวไปสอบสวนที่สน.พระโขนง

จากการสอบสวน นายปิยะ ให้การอ้างว่า ผู้ตายมีอาชีพขับแกร็ปไบค์เหมือนตน ซึ่งสาเหตุของความแค้นที่ต้องสางด้วยชีวิตคือ นายทศพร แย่งแฟนสาวของตนไปอยู่กินด้วย เหมือนเป็นการหยามเกียรติกัน แถมยังส่งข้อความมาถากถางและท้าทายตนไม่เว้นแต่ละวัน จนกระทั่งตนทนไม่ไหว จึงมีการนัดเจรจากันหน้าปากซอยที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงนายทศพร ไม่พูดพร่ำทำเพลงควักอาวุธปืนที่เหน็บอยู่ที่เอวออกมาเล็งใส่ตน ตนจึงกระโดดชาร์จเพื่อเอาชีวิตรอด บังเอิญแม็กกาซีนหลุดออกจากตัวปืน จังหวะที่นายทศพรกำลังหยิบแม็กกาซีน ตนจึงใช้อาวุธมีดที่พกมา แทงเข้าที่ราวนมซ้าย ทรุดลงไป แล้วขี่รถจยย.หนีไปตั้งหลักที่บ้านย่านวัดทองใน ซอยอ่อนนุช 25 ก่อนจะตัดสินใจติดต่อเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

พ่อผู้เสียชีวิต เล่าว่า ทนกับลูกได้ออกมาทำงานขับวินปกติเวลา 10.00 น. ซึ่งตนก็ออกมาส่งผู้โดยสารปกติ แต่เห็นรถร่วมกตัญญูและคนมามุงดูกันข้างหน้าห้างจำนวนมาก ตนจึงได้ชะลอดูจึงได้เห็นว่าเป็นลูกชายตัวเองถูกแทง ซึ่งตอนนั้นทุกคนกำลังช่วยยื้อชีวิตลูกชายตนเองอยู่ ส่วนตัวไม่ทราบว่าเรื่องอะไรแต่ที่คร่าวๆทราบว่าแฟนเก่าที่กำลังคบกันอยู่กับลูกตนเองเป็นคนทำ ส่วนตัวไม่เคยเห็นหน้าเพราะไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน เพิ่งอยากให้เจ้าหน้าที่ทำไปตามกฎหมาย ส่วนตัวพูดไม่ออกกับเรื่องที่เกิดขึ้น และเรื่องปืนที่ลูกชายพกส่วนตัวไม่ทราบว่าลูกชายมีปืนพก เพราะผมกับลูกชายไม่อยู่ด้วยกันซึ่งลูกชายก็โตแล้ว และคนเก่าก็เคยพูดด้วยกันว่าต่างคนต่างอยู่ใช้ชีวิตปกติ
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และได้มอบศพให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯเพื่อผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดต่อไป

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link