วันที่15 พฤศจิกายน 2562 เวลา 14.00น. สื่อมวลชนได้ลงพื้นที่ติดตามหาข้อเท็จจริง
จากกรณีที่มีการร้องเรียนของนางพัชรินทร์ เหมอังกูร ที่มีการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 11 ที่ผ่านมา ว่ามีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางใหญ่ ในประเด็นที่มีประชาชนแต่งกายคล้ายตำรวจและปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าพนักงาน
ทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายกลั่นแกล้งทำให้ได้รับคดีทางอาญา และยังถูกอายัดบัญชีกว่า 20 บัญชีส่งผลให้ธุรกิจได้รับความเสียหายอีกทั้งบริษัทขาดความน่าเชื่อถือ
ทั้งนี้ผู้เสียหายจึงได้ไปร้องดำเนินคดีที่ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 1ข้อหาฐานความผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมีนายตำรวจและและอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจรวม3 คน
ลิงค์สำหรับสื่อมวลชน
#นักธุรกิจ ฟ้องดำเนินคดี 157 บิ๊ก ตร. สภ.บางใหญ่
สื่อมวลชนจึงเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงที่สภ.บางใหญ่ ในประเด็นที่มีเจ้าหน้าที่พนักงานหรือบุคคลธรรมดามาปฏิบัติหน้าที่คล้ายกับตำรวจซึ่งโดนฟ้อง 157
คลิปสื่อมวลชนลงข่าว
#งานเข้า!.สภ.บางใหญ่ กองทัพสื่อบุกจี้ถาม ผกก.ปมโดนร้อง157
ในการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงวันนี้ ผู้กำกับสภ.บางใหญ่ไม่อยู่ ทีมงานจึงได้โทรไปหาผกก.ท่านติดธุระอยู่ จึงได้บอกให้พูดคุยสอบถามกับทางพ.ต.ท.ยศวิน เอื่ยมพุ่ม
ซึ่งลงพื้นที่ตรวจสอบที่สภ. บางใหญ่นั้นก็ได้พบกับชายที่แต่งกายคล้ายตำรวจและแสดงตนเหมือนตำรวจมานั่งนอนเล่นอยู่ในห้องสืบสวนคดีของสภ. ทำให้ประชาชนที่มาติดต่อใช้บริการในสถานีตำรวจเข้าใจว่าชายคนดังกล่าวเป็นตำรวจ ทีมงานเองก็เข้าใจว่าชายคนนี้เป็นตำรวจเช่นกัน ซึ่งในระหว่างที่ทีมข่าวกำลังจะไปเคาะห้องท่านพลตำรวจโทยศวินนั้น ชายคนดังกล่าวก็ได้แสดงตนและสอบถามทีมข่าวว่ามาทำอะไรมาหาใครทางทีมงานจึงบอกว่ามาหาพันตำรวจโทยศวิน ซึ่งชายคนนั้นแจ้งว่าท่านยศวินไม่อยู่และคุณมีเรื่องอะไร ในความเข้าใจของทีมงานสื่อมวลชนเข้าใจว่าบุคคลดังกล่าวเป็นตำรวจจึงได้เดินเข้าไปสอบถามว่า พอดีจะมาสอบถามว่าบุคคลในรูปนี้เป็นตำรวจหรือไม่อย่างไรแต่พอเดินเข้าไปถามแล้วชายคนดังกล่าวก็แสดงตนว่าผมไม่ใช่ตำรวจผมเป็นประชาชนธรรมดา เป็นเหตุให้ผู้สื่อข่าวสงสัยเป็นอย่างมากจึงสอบถามว่าแล้วมานั่งอยู่ในห้องพนักงานสอบสวนได้อย่างไรอีกทั้งยังแต่งกายคล้ายตำรวจอีกซึ่งชายดังกล่าวก็บอกว่าเสื้อดังกล่าวนั้นเป็นเสื้อของเพื่อนส่วนการที่มานั้งในห้องพนักงานสอบสวนนั้นพอดีกับเพื่อนที่เป็นตำรวจ หลังจากนั้นบุคคลดังกล่าวก็พยายามเดินนี้ออกจากห้องพนักงานสอบสวน
ทำให้ทางทีมงานและประชาชนเองเกิดความสับสน
ผู้สื่อข่าวจึงได้โทรไปสอบถามเรื่องราวต่างๆกับพ.ต.ท.ยศวิน เอื้อมพุ่ม ในกรณีที่ตำรวจในสภ.บางใหญ่ ปฎิบัติหน้าที่มิชอบจนโดนฟ้อง157 และกรณีของชายคนแต่งกายเหมือนตำรวจที่นอนอยู่ให้ห้องทำงานของสภ.
ทางพ.ต.ท.ยศวิน เอื่อมพุ่ม จึงได้ชี้แจงว่า เรื่องที่มีบุคคลเข้ามาปฎิบัติหน้าที่คล้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสภ.บางใหญ่ มีอยู่จริง ซึ่งในตอนแรกบอกว่า เป็นคำสั่งของท่านเองที่สั่งให้เจ้าหน้าที่พนักงานคนนี้เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ช่วยราชการและฝึกสอนงานให้กับตำรวจที่เข้ามาใหม่ ทั้งที่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้เกีษยณอาุราชการไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวจึงถาม ท่านรองยศวิน ต่อไปว่า การที่จะให้บุคคลที่เกีษยณอายุราชการแล้วกลับมาช่วยปฎิบัติงานที่สภ.เหมือนเดิมนั้นทำได้อย่างไร และอาจจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนเข้าใจผิดหรือไม่
ต่อมาท่านรองยศวินนั้นกลับคำพูดและได้ให้การปฎิเสธว่า ตนไม่ได้เป็นคนสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกีษยณราชการไปแล้วนั้นมาปฎิบัติหน้าที่ช่วยงานทางสภ.บางใหญ่ ซึ่งในตอนแรกบอกว่าตนเองเป็นคนสั่งมาช่วยงาน
ทาง พ.ต.ท.ยศวิน กว่าบุคคลดังกล่าวที่มาช่วยราชการเป็นคำสั่งของสภ.บางใหญ่ เสนอให้มีการนำเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวมาช่วยปฎิบัติงาน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพิ่มเติมว่าในวันนี้ได้เจอมีบุคคลที่แต่งกายคล้ายตำรวจนอนอยู่ในห้องพนักงานสอบสวนนั้นเป็นใคร ทางพันตำรวจโทยศวินได้ชี้แจงว่า บุคคลที่ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปเจอขณะนอนอยู่ ที่ห้องปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น เป็นบุคคลธรรมดาที่เข้ามาหาเพื่อนที่เป็นตำรวจ การแต่งกายที่เห็นคล้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ส่วนตัวเป็นบุคคลที่ชื่นชอบในเครื่องแบบการแต่งกายของตำรวจ จึงทำให้บุคคลดังกล่าวมีการแต่งกายเลียนแบนเจ้าหน้าที่และอาจจะทำให้ประชาชนทั่วไปอาจเข้าใจผิดได้ว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ซึ่งการแต่งการของบุคคลธรรมดาที่คนคล้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ท่านรองยศวินยังบอกอีกว่า ไม่สามารถที่จะไปบังคับทักท้วงให้มีการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะความชื่นชอบส่วนตัวเป็นสิทธิส่วนบุคคล
หลังจากท่านรองยศวิน กล่าวมาดังนี้ ทางผู้สื่อข่าวจึงได้มีการกล่าวทักท้วงไปว่า หากมีบุคคลธรรมดาที่แต่งกายคล้ายตำรวจและแสดงตนเหมือนตำรวจเข้าไปอยู่ในห้องทำงานเจ้าหน้าที่เช่นนี้ ผู้สื่อข่าวจึงมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควรที่ปล่อยให้มีบุคคลเช่นนี้เข้ามานอนเล่นในสภ.จะทำให้ประชานชนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งบุคคลดังกล่าวอาจจะไปแสวงหาผลประโยชน์และกระทำความผิดเพื่อรับผลประโยชน์กับประชาชนที่มาใช้บริการก็เป็นไปได้ ทางสภ.บางใหญ่จึงครวรที่จะมีการการกำชับสอดส่องดูแลให้ดีเพื่อที่จะไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
พ.ต.ท.ยศวิน บอกว่าผมจะกำชับไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก แล้วตอนนี้ผมได้สั่งให้บุคคลที่แต่งกายคล้ายตำรวจนั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปก่อนแล้วเพราะมีการฟ้องร้องที่ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 1
เรื่องนี้ทีมงานข่าวจึงขอฝากไปยังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยมาตรวจสอบและสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่สภ. บางใหญ่ด้วยเพราะอาจจะมีการกระทำความผิดมาแล้วยาวนานเพราะบุคคลและที่แต่งกายคล้ายตำรวจดังกล่าวที่แสดงตัวคล้ายตำรวจนั้นทำมานานไม่ใช่เพิ่งทำ
Leave a Reply