สระบุรี มารศาสนาย่องงัดโบสถ์และมณฑป รอยพระพุทธบาทเบื้องขวา ที่ยอดเขาวัดพระพุทธฉายสระบุรี

วันที่ 12 ก.ค.64. ศูนย์ 191 เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งจาก ร้อยโท อัมพร กำปั่นทอน อายุ 64 ปี (อดีตนายทหาร) เป็นเจ้าหน้าที่ศาสนพิธีกร ผู้ดูแลโบสถ์และมณฑป รอยพระพุทธบาทเบื้องขวา อยู่บนยอดเขา ว่า มีคนร้ายขึ้นมางัดโบสถ์และมณฑป 5 ยอดรอยพระพุทธบาทเบื้องขวา ที่ วัดพระพุทธฉาย ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี จึงแจ้งไปยัง ร.ต.อ.สุเมต ทองทับ ร้อยเวรสภ.เมืองสระบุรี จึงได้รุดไปตรวจที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่กรมการปกครองต้องเดินขึ้นเขากว่าจะได้ตรวจสอบ ใช้เวลาร่วม 10 นาที พอขึ้นไปถึงโบสถ์ ร้อยโท อัมพร จึงได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้ร่องรอยที่ถูกคนร้ายงัดกุญแจทางหน้าต่างและกุญแจประตูโบสถ์ จึงได้ทำการตรวจสอบและถ่ายรูปหน้าต่างและประตูดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน พร้อมเข้าไปตรวจสอบภายในโบสถ์ พบตู้บริจาคได้ถูกงัด อยู่หลังพระประธาน 3 ตู้ และตรวจสอบรอบๆในโบสถ์ ไม่มีสิ่งของสูญหาย โดยเฉพาะพระที่เก่าแก่ยังอยู่ครบเหมือนเดิม

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินขึ้นไปตรวจมณฑปซึ่งอยู่บนยอดเขาสูงสุด ห่างจากโบสถ์ประมาณ 100 เมตร พบ ร้านค้าที่ขายดอกไม้ธูปเทียน มีร่องรอยการถูกงัดที่ประตู ในร้านมีของถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย และแถวหน้าร้านยังมีกรอบพระตกเกลื่อนเต็มไปหมด แล้วได้เดินไปตรวจ หน้าประตูมณฑป มีการถูกงัดกุญแจที่ประตูและหน้าต่างเหมือนกับที่โบสถ์ จึงได้เข้าไปตรวจสอบดูภายในมณฑป พบ ตู้บริจาคถูกงัดจำนวน 2 ตู้ ตรวจสอบโดยรอบในมณฑปไม่มีสิ่งของอะไรสูญหาย ร.ต.อ.สุเมต ทองทับ ร้อยเวรสภ.เมืองสระบุรี จึงได้ถ่ายรูปในที่เกิดเหตุทั้งหมดเก็บไว้เป็นหลักฐาน และแจ้งไปยังกองพิสูจน์หลักฐานให้มาทำการตรวจสอบรายนิ้วมือในที่เกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานรอยนิ้วมือของคนร้าย

จากการสอบสวนในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ส่วนเงินที่คนร้ายได้งัดจากตู้บริจาคไปคงได้ไม่กี่พันบาท เนื่องจากทางวัดได้ปิดไม่ให้นักท่องขึ้นไปกราบไหว้บูชา เป็นเวลา 2 เดือนแล้ว เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 คนร้ายจึงได้เงินไปไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าไม่เกรงกลัวบาปบุญคุณโทษ ซึ่งวัดพระพุทธฉายเป็นวัดเก่าแก่และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชมวิว ที่มีนักท่องเที่ยวและประชาชนชาวสระบุรีที่นับถือมากราบไหว้บูชารอยพระพุทธบาทแห่งนี้มาอย่างช้านาน

ร้อยโท อัมพร กำปั่นทอน เล่าว่า ตนได้เดินขึ้นมาถ่ายภาพและออกกำลังกายเป็นประจำในเวลาช่วงเย็น เสร็จแล้วเห็นประตูกระจกด้านนอกโบสถ์เปิดอยู่ ส่วนประตูไม้ด้านในมีลักษณะเหมือนโดนเหล็กหรือไขควงแงะและตอกลงไป เพื่อที่จะสกัดกุญแจน็อตตัวนี้ออกและเปิดประตูเข้าไป ช่วงเวลาที่ตนมาเจอประมาณ 17.30 น. ตนจึงได้เดินสำรวจรอบๆ เห็นจุดแรกตรงหน้าต่าง คิดว่าน่าจะเป็นจุดแรกที่เขาทำการเปิด แต่ว่ามันเปิดไม่ได้เป็นสลักไม้ข้างใน ก็เลยมาทางประตูหน้าโบสถ์ซะมากกว่า ใช้เวลานานพอสมควร เพราะประตูมันหนามาก จากนั้นตนจึงได้แจ้งเจ้าอาวาสให้รับทราบเป็นขั้นต้นและโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาดูในที่เกิดเหตุและบันทึกหลักฐานไว้ก่อน เมื่อช่วงโควิด 2 เดือนที่ผ่านมา ตนได้ไปอยู่เขาขี้เหล็ก ก็เลยไม่ได้ขึ้นมาดู พอมาวันนี้ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ตนเดินขึ้นมา เพราะปกติจะไม่ขึ้นมา พอขึ้นมาถึงก็เห็นแบบนี้เลย ตนคิดว่าคนร้ายน่าจะมาด้วยกัน 2 คน
ส่วนที่นี่คือรอยพระพุทธบาทเบื้องขวา ตู้บริจาคได้โดนงัดไป 2 ตู้ เป็นเงินประมาณพันเศษๆ เพราะเป็นเงินบางส่วนที่เก็บไว้ ส่วนมากจะได้เยอะกว่านี้แต่ได้ทยอยเก็บไปบ้างแล้ว ตนคาดว่าคนร้ายน่าจะไม่ใช่คนในพื้นที่อื่น น่าจะเป็นคนในบริเวณใกล้ๆนี้ที่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนยังไง เพราะเคยมีคนขึ้นมาในระแวกนี้และโดนจับได้ โบสถ์นี้มีตู้บริจาค 3 ตู้


สมภพ พิมมะศร

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link