รวบ “คิน ภาคิน” ผู้ต้องหาเชิดเงินมัดจำ Super Car คาแหล่งกบดานย่านบางพลัด

รวบ “คิน ภาคิน” ผู้ต้องหาเชิดเงินมัดจำ Super Car คาแหล่งกบดานย่านบางพลัด

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 27 มิ.ย. พ.ต.อ.ศรีสันต์ เฟื่องสังข์ ผกก.สน.โคกคราม พร้อมด้วย พ.ต.ท.สยมภู กุลจิตติสิโรดม รอง ผกก.สส.สน.โคกคราม นำกำลังจับกุมตัว นายภาคิน ฉายดวงฤดีพร หรือ “คิน” อายุ 41 ปี ชาว จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี เลขที่ จ.663/2564 ลงวันที่ 19 ส.ค.64 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก ซอยจรัญสนิทวงศ์ 89 แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กทม.

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นปี 2564 นายภาคิน อาชีพนายหน้าขายรถหรู เจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “Hashi Hashi” และเฟซบุ๊กชื่อ “Kin Parkin” ได้เดินทางไปพบกับ น.ส.กณิษฐ์ฐา ธัญญะจิราพลชัย อายุ 29 ปี เจ้าของเต๊นท์รับซื้อขายรถยนต์และรถ Super Car ชื่อดัง ย่านถนนประเสริฐมนูญกิจ เพื่อเสนอขายรถยนต์มือสองยี่ห้อ Porsche 922 สีฟ้า เป็นรถจดทะเบียนถูกต้อง ให้กับทางเต๊นท์โดย นายภาคิน อ้างว่าพรรคพวกที่เป็นเจ้าของรถให้นำมาเสนอขายให้ในราคารวมค่านายหน้าแล้วประมาณ 9 ล้านบาท จากนั้นเมื่อเหยื่อลองเช็คข้อมูล จากเล่มทะเบียนรถ พบว่า รถคันดังกล่าว ผ่านการจดทะเบียนอย่างถูกต้องมีชื่อผู้ครอบครองตรงตามเล่มจริง จึงตอบตกลงซื้อขายกันตามราคาที่ นายภาคิน นำมาเสนอ แต่ นายภาคิน อ้างว่า รถคันดังกล่าวค้างค่างวดกับไฟแนนซ์อยู่ที่ราว 3.9 ล้านบาท ขอให้เจ้าของเต๊นท์ชำระเงินยอดดังกล่าวให้ก่อนแล้วจะนำรถมามอบให้ด้วยตนเอง

จากนั้น นายภาคิน ได้วางแผนให้เหยื่อ โอนเงินเข้าบัญชีแฟนสาวชื่อ น.ส.วีรนุช มลฑลจุลเกศ อายุ 41 ปี โดยอ้างว่า จะนำไปปิดไฟแนนซ์แทนเจ้าของเอง เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายโอนเงินกันไปมาหลายทอด ทาง น.ส.กณิษฐ์ฐา หลงเชื่อเพราะ เคยเห็นหน้าเห็นตา เป็นบุคคลในวงการเดียวกัน และเคยเจรจาเรื่องธุรกิจซื้อขายรถกันมาก่อน จึงยอมโอนเงินให้ไป อีกทั้งยังให้ค่ามัดจำรถไปอีกจำนวน 5 แสนบาท แต่ท้ายที่สุด นายภาคิน ก็ไม่นำรถมาให้และไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จนผู้เสียหายต้องรวบรวมหลักฐาน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ดำเนินการออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีไปกบดานที่บ้านญาติย่านบางพลัด

เบื้องต้นชุดจับกลุ่ม จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง นำส่งพนักงานสอบสวนพาไปฝากขังที่ศาลอาญามีนบุรี พร้อมแนบเรื่องคัดค้านการให้ประกันตัว เนื่องจากพบว่า นายภาคิน ยังมีหมายจับคดีลักษณะเดียวกันในท้องที่จังหวัดร้อยเอ็ดและจังหวัดระยอง รวม 2 คดี มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท ต้องรอผู้เสียหายประสานพนักงานสอบสวนท้องที่มาทำการอายัดตัวดำเนินคดี เพิ่มเติม ส่วน น.ส.วีรนุช มลฑลจุลเกศ อายุ 41 ปี แฟนสาวซึ่งเป็นเจ้าของบัญชี ได้ทำการออกหมายจับในข้อหาเดียวกันเอาไว้แล้ว อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีด้วยต่อไป.

ขอบคุณข้อมูลข่าวสาร พี่เอกไทยรัฐ

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link