เมื่อกลางดึกวันที่ 22 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่หมู่ 4 บ้านน้ำลาด ต.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ว่าได้มีช้างป่าขึ้นมาจากภูเขาแล้วเข้าไปในสวนทำลายพืชผลทางการเกษตร และ บุกเข้าไปทำลายทรัพย์สิน ได้รับความเสียหาย จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ บ้านน้ำลาด ต.นายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ พบกับนายปราโมทย์ ทาบคำ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 291 หมู่ที่ 4 บ้านน้ำลาด ต.นายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ขอไม่ให้สัมภาษณ์เจ้าของไร่อ้อยที่เกิดเหตุ ได้เล่าให้ฟังว่า ในช่วงกลางคืนที่ผ่านมาได้มีช้างป่าเข้ามาที่ไร่ ตนเองประมาณ 2-3 ตัว เข้าไปกินพืชผลทางการเกษตรซึ่งตนเองได้ปลูกไว้ มีกล้วย-ลูกขนุน และ อ้อย ที่เหลือไว้ขนยายพันธ์ คาดว่าระหว่างที่ช้างเดินผ่านได้ใช้งาฟาดต้นกล้วยกับต้นอ้อย เสียหายเกือบทั้งหมด และ ช้างทั้ง 2 -3 ตัว ได้เดินเหยียบย้ำไปทั่วบรเวณในไร่ ซึ่งมีรอยเท้าขนาดใหญ่เต็มไปหมด ส่วนตนเองช่วงกลางคืนจะไม่ได้นอนพักอยู่ที่ไร่จะกลับเข้ามานอนในหมู่บ้าน ซึ้งรุ่งเช้าจึงออกไปทำงานในไร่จึงพบต้นอ้อย และ ข้าวของถูกช้างทำรายได้รับความเสียหาย ส่วนช้างคงหลบหนีเข้าป่าไปช่วงก่อนสว่าง
ซึ้งตนคาดว่าพอพลบค่ำ หรือ ช่วงกลางดึกปลอดคนช้างคงอาศัยความเงียบ ออกมาหาของกินในไร่ เเละ เข้ามาในบริเวณกระท่อมที่พัก ทำลายข้าวของ อยู่ที่ใต้ถุนท่อม กระจัดกระจาย และ ได้ไปกัดกินลูกขนุน ที่ใกล้เคียงกระท่อมที่พักร่วงหล่นเต็มพื้นไปหมด
แต่ตนเองก็ไม่คิดว่าช้างจะย้อนกลับมาในกลางดึกซึ่งของช้างดังกล่าวในช่วงหน้าแล้งจะแอบขึ้นมาเป็นประจำทุกปี
ส่วนชาวบ้าน สะพานหิน ต.โป่งนก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ อยู่ห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตร ชาวบ้านก็ได้รับผลกระทบจากช้างป่าบุกเข้าทำลายข้าวของเป็นพืชผลทางการเกษตรด้วยเช่นกันอินวอนหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าไปตรวจสอบดูแลผลักดันให้โขงช้างดังกล่าวกับลงไปในเขตพื้นที่ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้กำหนดไว้ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านต่อไป
คำหอม ชุมชน 02 ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ
Leave a Reply