กรณีที่ ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล แต่งชุดดำเดินทางเข้ายื่นหนังสือ ต่อนายอร่าม โลวีระ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ เพื่อขอให้นำเรื่องร้องเรียนส่งต่อไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทบทวน มติที่กระทรวงสาธารณะสุข ออกกฏเกณฑ์ในการถ่ายโอน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพมาสังกัด อบจ.ใหม่ เนื่องจากกระทรวงมีการกำหนดเกณฑ์ที่ ขัดต่อความเป็นจริง ซึ่งอบจ.รับเรื่องพร้อมที่จะดำเนินการตามที่ ผอ.รพสต. แสดงความจำนงค์มาส่งต่อไปยังนายกรัฐมนตรี
นายนิคม โถชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเฉลิมพระเกียรติโนนน้อย ตำบลลุ่มลำชี อำเภอบ้านเข้วา จังหวัดชัยภูมิ ออกมายอมรับว่าโรงพยาบาลของตนได้เข้ามาสังกัด อบจ.นั้นเพราะมีคุณสมบัติเข้าหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณะสุข เนื่องจาก รพสต. ตนมีเจ้าหน้าที่ที่เป็นข้าราชการประจำจำนวน 6 คน มีลูกจ้างจำนวน 3 คน ซึ่งตามเกณฑ์มาตรฐานของการที่จะได้รับการอนุมัติ จากกระทรวงฯนั้น กระทรวงกำหนดไว้ 3 ระดับคือ ระดับไซร์S,M,L โดยไซร์ S ถือเป็น รพสต.ขนาดเล็กจะต้องมี ข้าราชการประจำจำนวน 4 คน ไซร์ M เป็น รพสต.ขนาดกลางจะต้องมีข้าราชการจำนวน 12 คน และไซร์L ซึ่งเป็นรพสต.ขนาดใหญ่จะต้องมีข้าราชการจำนวน 14 คน ซึ่ง รพสต.ของตนถือเป็น รพสต.ขนาดเล็ก ส่วนงบประมาณที่จะได้รับเพื่อมาบริหารจัดการองค์กรนั้น แยกเป็น 2 ส่วน คือเงินเดือนประจำและงบประมาณในการพัฒนา เงินเดือนประจำถือเป็นเป็นปกติทั่วไปที่สำนักงบประมาณ ควบคุมอยูแล้ว ส่วนงบประมาณในการพัฒนาถ้าขึ้นตรงต่อกระทรวงฯก็จะไม่มีงบในส่วนนี้ ลงมายังรพสต.เว้นเสียแต่ รพสต.นั้นจะทำโครงการขึ้นไปยังกระทรวงซึ่งก็ต้องผ่านขั้นตอนที่ยุ่งยาก แต่หากเข้ามาสังกัด อบจ. เงินเดือนก็ยังอยู่ในการบริหารจัดการของสำนักงบฯ แต่งบประมาณที่จะนำมาพัฒนานั้นทางอบจ.จะกำหนดเงินอุดหนุนเบี้องต้น ให้ตามไซร์ ไซร์S จะได้ 1ล้าน ไซร์M จะได้1.5ล้าน และไซร์L จะได้2ล้าน ตามส่วนสัดส่วน ซึ่งตนมองว่าสิ่งที่รพสต.ต่างๆที่ขอเข้ามาร่วมงานกับอบจ.นั้น ได้งบประมาณมาบริหารจัดการนั้นก็ใช้ แต่ที่มากไปกว่านั้นคือเรื่องการติดต่อประสานงาน ที่เข้าใจ เข้าถึง ได้รวดเร็ว และนำไปสู่การดูแลสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า
ด้านนายสมชาย จริยานันทกุล รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ยืนยันว่าทั้ง 167 รพสต. ในจังหวัดชัยภูมิ มีเข้าเกณฑ์เพียง 12 แห่งเท่านั้น ซึ่งตามความเป็นจริง รพสต.อยู่ในเณฑ์ต่ำกว่าไซร์ S ทั้งนั้น คือมีเพียงข้าราชการประจำใน รพสต. เพียง 3-4 คน เท่านั้น นอกนั้นเป็นพนักงานข้าราชการ และลูกจ้าง ตนจึงมองว่าเป็นเกมส์การเมือง ที่รัฐบาลมีความพยายามที่จะไม่ให้อบจ.สร้างขุมกำลังทางการเมือง เพราะหาก รพสต.เข้ามาสังกัดอบจ.นั้นหมายถึง อสม.ที่เป็นหัวคะแนนสำคัญจำนวนมากทั้งหมด ก็จะเข้ามาอยู่ในความควบคุมของอบจ.ทันที ตนจึงมองว่านี้คือการล็อคสเปคการถ่ายโอน รพสต.
ด้านนางสุกัญญา หนูทองหลาง อสม. สังกัด รพสต.โนนน้อย เล่าว่า ส่วนตัวตนเห็นว่าการที่รพสต.เข้ามาสังกัดอบจ. ถือเป็นเรื่องดีมากเพราะหากต้องการความช่วยเหลือใดๆก็สามารถแจ้งผ่านสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดในพื้นที่ เพื่อให้นำปัญหาเข้าสู่สภา การแก้ปัญหาและการช่วยเหลือสังคมจะเร็วกว่าอย่างแน่นอน อบจ.เป็นหน่วยงานท้องถิ่นที่ใกล้ชิดประชาชนมากกว่ากระทรวงสาธารณะสุข
คำหอม ชุมชน 02 ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ///รายงาน
Leave a Reply